(กลายเป็น
พายุหมุนนอกเขตร้อนหลังจาก 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2545)
พายุไต้ฝุ่นรามสูร หรือที่ใน
ฟิลิปปินส์เรียกว่า
พายุไต้ฝุ่นโฟลรีตา (
ตากาล็อก: Florita) เป็น
พายุหมุนเขตร้อนที่มีส่วนทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมร้ายแรงใน
ประเทศฟิลิปปินส์ พายุไต้ฝุ่นรามสูรเป็น
พายุดีเปรสชันลูกที่ 11,
พายุโซนร้อนลูกที่ 5 และ
พายุไต้ฝุ่นลูกที่ 3 ในฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2545 ก่อตัวขึ้นจาก
ความกดอากาศต่ำเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2545 ในช่วงเวลาเดียวกันกับพายุไต้ฝุ่นชาทาอานห่างไกลออกไปทางทิศตะวันตก ระบบได้
ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อมุ่งหน้าสู่
ประเทศไต้หวัน พายุไต้ฝุ่นรามสูรมีกำลังแรงสูงสุดในวันที่ 2 กรกฎาคม ด้วยความเร็วลม 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (105 ไมล์ต่อชั่วโมง) และ
ความกดอากาศที่ 930 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 27.46 นิ้วของปรอท) ต่อมาในวันนั้น พายุไต้ฝุ่นรามสูรเริ่มเคลื่อนตัวหันไปทางทิศเหนือผ่านทางตะวันออกของประเทศไต้หวัน และ
ประเทศจีน หลังจากนั้นพายุก็เริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เนื่องจากร่องน้ำกำลังเคลื่อนตัวเข้าหากัน ซึ่งทำให้พายุเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของ
มิยาโกจิมะ และทางตะวันตกของ
จังหวัดเชจู ฝนตกหนักจาก
พายุหมุนนอกเขตร้อนที่ส่งผลกระทบต่อ
ประเทศเกาหลีเหนือ และ
ดินแดนปรีมอร์เยใน
รัสเซียตะวันออกไกล[1]การวิเคราะห์โครงสร้าง
จลนพลศาสตร์เคมี และ
อุณหพลศาสตร์ของพายุไต้ฝุ่นรามสูรอยู่ทางทิศเหนือในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือโดยใช้หน่วยเสียงไมโครเวฟขั้นสูง การดูดซึมข้อมูลรูปแบบสามมิติใช้ในการสังเกตโดยดาวเทียมของ
โนอา และผลการวิจัยพบว่าลักษณะโครงสร้างของพายุสามารถอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลมากขึ้นจากข้อมูลที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน เช่น การไหลเวียนศูนย์กลางของพายุ และปริมาณน้ำฝนได้รับการพัฒนามากขึ้น เป็นต้น
[2]สายฝนชั้นนอกกำแพงตาของพายุไต้ฝุ่นรามสูรได้ลดปริมาณน้ำฝน ซึ่งช่วยบรรเทาความแห้งแล้งในประเทศจีนได้ แม้ว่าจะมีความเสียหายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจังหวัดแห่งหนึ่งใน
มณฑลเจ้อเจียงได้รับความเสียหายประมาณ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากส่งผลกระทบต่อประเทศไต้หวัน และประเทศจีน บ้านเรือนใน
จังหวัดโอกินาวะประมาณ 10,000 หลัง ได้ประสบปัญหาไฟฟ้าดับจากลมแรง พืชผลได้รับความเสียหายเล็กน้อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และคลื่นสูงซัดเรือล่มทำให้มีลูกเรือเสียชีวิต 2 ราย ในประเทศญี่ปุ่น หลังจากพายุเคลื่อนตัวผ่านทางตะวันตกของจังหวัดเชจูจึงทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และเกิดความเสียหาย 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
[3]